2. ต้นมะยม มะยมเปรี้ยว ต้นมะยมลูกดก มีกินตลอดปี ไม้มงคล ที่คนนิยมปลูก
ต้นมะยม ชื่อวิทยาศาสตร์ Phyllanthus acidus Skeels ชื่อวงศ์ EUPHORBIACE ชื่อสามัญ Star Gooseberry ชื่อท้องถิ่น * ทั่วไป เรียก มะยม * ภาคอีสาน เรียก หมักยม, หมากยม * ภาคใต้ เรียก ยม ลักษณะทั่วไป มะยมเป็นไม้พุ่มขนาดกลาง สูง 5 - 10 เมตร ลําต้นตรงและแตกกิ่งก้านสาขาบริเวณปลายยอด กิ่งก้านจะเปราะและแตกง่าย ผิวเปลือกของลําต้นขรุขระสีเทาปนน้ําตาล ใบเป็นใบรวม มีใบย่อยออกเรียงแบบสลับเป็น 2 แถว แต่ละก้านมีใบย่อย 20 - 30 คู่ ใบรูปขอบขนานกลม หรือค่อนข้างเป็นสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ปลายใบแหลม ฐานใบกลมหรือมน ขอบใบเรียบ ใบกว้าง 1.5 - 3.5 ซม ยาว 2.5 - 7.5 ซม ดอกออกเป็นช่อและออกตามกิ่ง ดอกตัวผู้และดอกตัวเมียแยกกัน ดอกตัวผู้เกิดที่ปลายช่อไม่มีกลีบดอก กลีบเลี้ยงมี 6 กลีบ แยกกัน ดอกตัวเมียมีกลีบเพียง 6 กลีบ ผลรูปร่างกลมแบนมี 3 พู ผลอ่อนสีเขียวเมื่อแก่เปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือขาวแกมเหลืองเมล็ดรูปร่างกลม เห็นเป็นร่องสีน้ําตาลอ่อน วิธีการปลูก มะยมเป็นพันธุ์ไม้กลางแจ้ง เจริญเติบโตได้ดีทั้งที่แดดจัดหรือในที่ร่มรําไร ปลูกในดินร่วนซุย ความชื้นเหมาะสม ปลูกในดินร่วนซุย ความชื้นเหมาะสม ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด ประโยชน์ สําหรับการใช้ประโยชน์ทางยา แพทย์แผนโบราณมักนิยมใช้รากของมะยมตัวผู้ (มะยมที่ออกดอกเต็มต้นและร่วงหล่นไปไม่ติดลูก) ในการปรุงยากล่าวกันว่ามีคุณภาพดีกว่ามะยมตัวเมีย ราก สรรพคุณ แก้โรคผิวหนัง แก้ผดผื่นคัน ช่วยขับน้ําเหลืองให้แห้ง ประดง ดับพิษเสมหะ โลหิต เปลือกลําต้น สรรพคุณแก้ไข้ทับระดู ระดูทับไข้ ใบ ปรุงเป็นส่วนประกอบของยาเขียว สรรพคุณดับพิษไข้ แก้ไข้ และใบมะยมรวมกับใบมะเฟือง ใบหมากผู้หมากเมียต้มน้ําอาบแก้พิษคัน พิษไข้หัวเหือด หัด ไข้ดําแดง ไข้สุกไส แก้คันได้ สรรพคุณทางยา * ราก รสจืด สรรพคุณแก้โรคผิวหนัง แก้ผดผื่นคัน ช่วยซับน้ําเหลืองให้แห้ง แก้ประดง ดับพิษเสมหะ * เปลือกต้น รสจืด สรรพคุณแก้ไข้ทับระดู ระดูทับไข้ และแก้เม็ดผดผื่นคัน * ใบ รสจืดมัน ปรุงเป็นส่วนประของยาเขียว สรรพคุณแก้ไข้ ดับพิษไข้ บํารุงประสาท ต้มร่วมกับใบหมากผู้หมากเมียและใบมะเฟืองอาบแก้คัน ไข้หัด เหือด และสุกใส * ดอก ดอกสดใช้ต้มกรองเอาน้ําแก้โรคในตา ชําระล้างในตา * ผล รสเปรี้ยวสุขุม กัดเสมหะ แก้ไอ บํารุงโลหิต และระบายท้อง คติความเชื่อ ตามตําราพรหมชาติฉบับหลวง กล่าวว่ามะยมเป็นต้นไม้ที่ควรปลูกไว้ทางทิศตะวันตก (ประจิม) เพื่อป้องกันความถ่อย ถ้อยความ และผีร้ายมิให้มากล้ํากราย ในบางตําราก็ว่า เป็นต้นไม้ที่มีชื่อเป็นมงคลนาม ปลูกแล้วผู้คนจะได้นิยมเหมือนมี นะเมตตามหานิยม
3. แมกนีเซียม แมกนีเซียมซัลเฟต แมกนีเซียมพืช ช่วยพืชใบเขียวเข้ม ใบใหญ่ ช่วยสังเคราะห์แสงได้ดี พืชเติบโตได้ดียิ่งขึ้น(1กก.)
แมกนีเซียมซัลเฟต ลักษณะเป็นผลึกคริสตัลเม็ดใหญ่ ไม่จับเป็นก้อนแข็ง ละลายน้ําได้ดี 100% ไม่มีตะกอน สูตรเคมี MgSO4.7H20 Magnesium Sulfate Heptahydrate แมกนีเซียมซัลเฟตเฮปตาไฮเดรต หรือดีเกลือฝรั่ง (Epsom salt) ทําให้ใบพืชมีความแข็งแรง ทนทานเพิ่มคลอโรฟิลส์ให้แก่พืช ผลผลิตมีคุณภาพ น้ําหนักดี ประกอบด้วย แม็กนีเซียม Mg 10% (หรือ MgO 16%) กํามะถัน S 12% ใช้สําหรับ 1 ละลายน้ําเพื่อเป็นธาตุอาหารสําหรับการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ (Hydroponics) 2 ละลายน้ําเพื่อฉีดพ่นพืชโดยตรง โดยพืชสามารถดูดซึมธาตุอาหารผ่านทางใบและสามารถนําไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ อัตราการใช้ ประมาณ 30-50 กรัม ต่อน้ํา 20 ลิตร ธาตุแมกนีเซียม เป็นองค์ประกอบของส่วนที่เป็นสีเขียว ทั้งที่ใบและส่วนอื่น ๆ ซึ่งมีบทบาทสําคัญในการสร้างอาหารและโปรตีนพืช อาการขาดแมกนีเซียมจะสั่งเกตได้จากใบพืช ที่เหลืองซีดบริเวณเส้นกลางใบที่อยู่ใกล้กับผลหรือมีจุดประสีเหลืองอยู่ทั่วทั้งใบ ถ้าหากอาการขาดรุ่นแรงใบแก่จะมีอาการมากกว่าใบอ่อน สําหรับผักกาดใบจะมีสีซีดจางลง ลักษณะอาการที่แสดงที่ลําต้นคือ ต้นพืชจะมีขนาดเล็กลงมาก เปราะหักง่าย การขาดธาตุแมกนีเซียม จะทําให้ผลผลิตลดน้อยลงและต้นพืชทรุดโทรมอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสาเหตุที่พืชขาดธาตุแมกนีเซียมนั้น เพราะปริมาณแมกนีเซียมที่อยู่ในดินถูกชะล้างลึกลงไปเกินกว่าที่รากพืชจะดึงดูดมาใช้ได้ และการที่มีปริมาณโปแตสเซียมสะสมในดินมากเกินไปก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่สําคัญ การแก้ไข สามารถทําได้โดยการปรับปรุงสภาพดิน ความเป็นกรด ด่างของดินให้เหมาะสมต่อการดูดเข้าไปใช้ของพืช และมีการใช้ปุ๋ยโปแตสเซียมที่พอเหมาะ ที่สําคัญก็คือ การฉีดพ่นทางใบด้วยธาตุอาหารเสริม ซึ่งมีธาตุแมกนีเซียมในรูปที่พืชสามารถนําไปใช้ได้ทันที ธาตุกํามะถัน กํามะถันมีความจําเป็นต่อการสร้างโปรตีนพืช เป็นองค์ประกอบของวิตามินบางตัวที่มีผลทางอ้อมต่อการสร้างสีเขียวของพืช ซึ่งจะช่วยให้เกิดการหายใจและการปรุงอาหารพืช พืชที่ขาดกํามะถันจะมีเสียเขียวอ่อน หรือเหลืองคล้าย ๆ อาการขาดไนโตรเจน ใบขนาดเล็กลง ยอดของพืชจะชะงักการเจริญเติบโต ลําต้นและกิ่งก้านลีบเล็ก อาการขาดธาตุกํามะถันจะมีอาการแตกต่างจากขาดธาตุไนโตรเจน คือจะปรากฏที่ยอดอ่อนก่อน ส่วนใบล่างยังคงปกติ ถ้าอาการรุนแรงใบล่างก็จะมีอาการด้วยเช่นกัน ซึ่งจะตรงข้ามกับอาการของการขาดไนโตรเจน จะแสดงอาการที่ใบล่างก่อน
4. ไม้ผลที่นิยมปลูก ต้นฝรั่งกิมจู กิ่งตอน รสชาติ กรอบ หวาน อร่อย ปลูก 8 เดือน ออกผลผลิต ขนาดความสูง 60-80 ซ.ม.(1 ต้น/แพ็ค)
ต้นฝรั่งพันธุ์กิมจู เนื้อหวานกรอบ อร่อย เมล็ดน้อย ปลูกง่าย ผลดก ปลูกได้ทุกที่ ฝรั่งกิมจูที่ปลูกสลับกันกับไม้ผลชนิดอื่น กิ่งพันธุ์ฝรั่งกิมจู สายพันธุ์แท้ ลูกดก ผิวสวย หวานกรอบ อร่อย ปลูกง่าย เปลือกบาง รสชาดหวาน เป็นที่นิยมในปัจจุบัน
5. ต้นมะพูด ผลไม้หายาก มีสรรพคุณทางยาให้ผลดก รสหวานอมเปรี้ยวนิดๆ
ต้นมะพูดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ให้ผลดกผลสุกสีเหลือง รสหวานอมเปรี้ยว มีสรรพคุณทางยามาก ต้นพันธุ์เพาะเมล็ด ปลูก 2-3 ปีติดผลปลูกง่ายโตไว
หากคุณกำลังมองหาไม้ผลที่นิยมปลูกในบ้านพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้หลากหลาย เราขอแนะนำให้รู้จักกับนวัตกรรมไม้ผลที่นิยมปลูกในบ้านชั้นเลิศจากแบรนด์ผู้ผลิตที่คร่ำวอดอยู่ในวงการ โดยแต่ละชนิดมีทั้งแบบ ไม้ผลที่นิยมปลูกในบ้าน ซึ่งวันนี้ทางเราจึงจัดอันดับ แนะนำ ไม้ผลที่นิยมปลูกในบ้าน ที่ตอบโจทย์กับตัวคุณมาให้เลือกกันแล้วดังนี้