1. ปุ๋ยเกล็ด ปุ๋ยแมกนีเซียมซัลเฟต บํารุงใบ เร่งใบเขียว / Magnesium sulfate Heptahydrate 99.5%
ลักษณะเป็นผลึกคริสตัลเม็ดใหญ่ ไม่จับเป็นก้อนแข็ง ละลายน้ําได้ดี 100 ไม่มีตะกอน สูตรเคมี MgSO4.7H20 Magnesium Sulfate Heptahydrate แมกนีเซียมซัลเฟตเฮปตาไฮเดรต หรือดีเกลือฝรั่ง Epsom salt ทําให้ใบพืชมีความแข็งแรง ทนทานเพิ่มคลอโรฟิลส์ให้แก่พืช ผลผลิตมีคุณภาพ น้ําหนักดี ประกอบด้วย แม็กนีเซียม Mg 10 หรือ MgO 1 6 กํามะถัน S 12% ใช้สําหรับ 1 ละลายน้ําเพื่อเป็นธาตุอาหารสําหรับการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ Hydroponics) 2 ละลายน้ําเพื่อฉีดพ่นพืชโดยตรง โดยพืชสามารถดูดซึมธาตุอาหารผ่านทางใบและสามารถนําไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ อัตราการใช้ 1-2 กก ต่อน้ํา 200 ลิตร ธาตุแมกนีเซียม เป็นองค์ประกอบของส่วนที่เป็นสีเขียว ทั้งที่ใบและส่วนอื่น ๆ ซึ่งมีบทบาทสําคัญในการสร้างอาหารและโปรตีนพืช อาการขาดแมกนีเซียมจะสั่งเกตได้จากใบพืช ที่เหลืองซีดบริเวณเส้นกลางใบที่อยู่ใกล้กับผลหรือมีจุดประสีเหลืองอยู่ทั่วทั้งใบ ถ้าหากอาการขาดรุ่นแรงใบแก่จะมีอาการมากกว่าใบอ่อน สําหรับผักกาดใบจะมีสีซีดจางลง ลักษณะอาการที่แสดงที่ลําต้นคือ ต้นพืชจะมีขนาดเล็กลงมาก เปราะหักง่าย การขาดธาตุแมกนีเซียม จะทําให้ผลผลิตลดน้อยลงและต้นพืชทรุดโทรมอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสาเหตุที่พืชขาดธาตุแมกนีเซียมนั้น เพราะปริมาณแมกนีเซียมที่อยู่ในดินถูกชะล้างลึกลงไปเกินกว่าที่รากพืชจะดึงดูดมาใช้ได้ และการที่มีปริมาณโปแตสเซียมสะสมในดินมากเกินไปก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่สําคัญ การแก้ไข สามารถทําได้โดยการปรับปรุงสภาพดิน ความเป็นกรด ด่างของดินให้เหมาะสมต่อการดูดเข้าไปใช้ของพืช และมีการใช้ปุ๋ยโปแตสเซียมที่พอเหมาะ ที่สําคัญก็คือ การฉีดพ่นทางใบด้วยธาตุอาหารเสริม ซึ่งมีธาตุแมกนีเซียมในรูปที่พืชสามารถนําไปใช้ได้ทันที ธาตุกํามะถัน กํามะถันมีความจําเป็นต่อการสร้างโปรตีนพืช เป็นองค์ประกอบของวิตามินบางตัวที่มีผลทางอ้อมต่อการสร้างสีเขียวของพืช ซึ่งจะช่วยให้เกิดการหายใจและการปรุงอาหารพืช พืชที่ขาดกํามะถันจะมีเสียเขียวอ่อน หรือเหลืองคล้าย ๆ อาการขาดไนโตรเจน ใบขนาดเล็กลง ยอดของพืชจะชะงักการเจริญเติบโต ลําต้นและกิ่งก้านลีบเล็ก อาการขาดธาตุกํามะถันจะมีอาการแตกต่างจากขาดธาตุไนโตรเจน คือจะปรากฏที่ยอดอ่อนก่อน ส่วนใบล่างยังคงปกติ ถ้าอาการรุนแรงใบล่างก็จะมีอาการด้วยเช่นกัน ซึ่งจะตรงข้ามกับอาการของการขาดไนโตรเจน จะแสดงอาการที่ใบล่างก่อน