2. บางขุนพรหม กรุเจดีย์เล็ก พิมพ์ยืนประทานพร
พระบางขุนพรหมกรุเจดีย์เล็ก
3. สมเด็จบางขุนพรหมพิมพ์ใหญ่ กรุใหม่(พร้อมส่ง)
พระสมเด็จบางขุนพรหมกรุใหม่ พิมใหญ่ ขึ้นกรุปี 2500 ประวัติพระสมเด็จบางขุนพรหมกรุใหม่ทุกท่านก็พอทราบประวัติกันดี นะครับที่วัดใหม่อมตรสที่นี้เรามาดูพระองค์นี้กันด้วยคราบกรุนั้นก็ประจักษ์ดังภาพหมึกด้านหลังองค์พระถูกต้องตามตําราเป็นพระที่สมบูรณ์ไม่ได้ผ่านการใช้ดูง่ายคราบราขี้กรุต่างๆๆฟองเต้าหู้ทรวดทรงพิมพระทุกอย่างก็ครบถ้วน และดูง่ายแท้แบบสากลได้ลองด้วยขมิ้นของพ่อครูกํานันสอนไว้เรียบร้อยก็เป็นจริงดังคําพ่อครูท่านสอนสวยสุดๆๆครับพระมีความหนาของพิมที่หนาสุด 0.5 ซ.มครับ
4. พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ฐานคู่กรุเก่า แถมพระหลักหมื่น)
พระแท้ ทั่วโลก
พิมพ์พระสมเด็จบางขุนพรหม: ส่วนผสมสามชั้นน้ําหนักเบาทําจากผ้าฝ้ายโพลีเอสเตอร์และเรยอนนี้จะช่วยให้มันดูวินเทจย้อนยุค Heathered และสง่างามสัมผัสนุ่ม Tag Is Tearaway จ้า
สมเด็จบางขุนพรหม: ส่วนผสมสามชั้นน้ําหนักเบาทําจากผ้าฝ้ายโพลีเอสเตอร์และเรยอนนี้จะช่วยให้มันดูวินเทจย้อนยุค Heathered และสง่างามสัมผัสนุ่ม Tag Is Tearaway จ้า จี่ตู่
เก้กโถ่ว: เรามุ่งมั่นที่จะให้บริการลูกค้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่ทนทานและมีคุณภาพสูงสําหรับการใช้งานประจําวันหากคุณมีคําถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์โปรดติดต่อเราเราจะตอบและแก้ปัญหาให้คุณภายใน 12 ชั่วโมง
พระหลักหมื่น: ผ่านการทดสอบแล้วว่าทนต่อการเกิดออกซิเดชันและการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดกลิ่น เช็คพิมพ์ตอนแรกนึกว่าเป็น พิมพ์ฐานแซม แต่ ตรวสอบคร่าว ๆแล้ว เป็นพิมพ์ฐานคู่ครับ ประวัติคร่าวๆ ด้านล่าง พุทธคุณของ พระเครื่อง จะสัมผัสไม่ได้ด้วยตา แต่แน่นอนมีอิทธิพลทางด้านจิตใจอย่างมาก เมื่อห้อยอยู่ที่คอแล้วทําให้อบอุ่นกายแบบบอกไม่ถูก คงหนีไม่พ้น สุดยอดพระมหาเมตตาบารมี ที่ปลุกเสกโดยเจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พฺรหฺมรํสี เมื่อบูชาติดตัวติดกายแล้ว ด้านเมตตามหานิยมเป็นหนึ่ง ไม่ว่าจะเจอเรื่องเลวร้ายก็กลับกลายเป็นดี แม้แต่มัจจุราชยังไม่ต้องการตัว ส่งผลให้รอดตายราวปาฏิหาริย์ มีตํานานเล่าขานต่างๆนาๆจากอดีตจวบจนปัจจุบัน ถึงตํานานพระสมเด็จ เป็น 1 ในเบญจภาคี ที่สร้างโดยพระสงฆ์แล้วปลุกเสกโดยพระสงฆ์ หนึ่งเดียวเท่านั้นครับที่สุดแล้วครับพระสมเด็จ วัดบางขุนพรหม ในอดีตมีอาณาบริเวณกว้างขวาง โดยเฉพาะในช่วงที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี ชราภาพ ท่านมาจําพรรษาหาความสงบ ขณะนั้นชาวบ้านได้นําที่ดินมาถวายเพิ่มเติมจากเดิม เพื่อให้ท่านสร้างพระหลวงพ่อโต ประดิษฐานเป็นที่พึ่งทางใจของพุทธศาสนิกชน ทําให้วัดบางขุนพรหมมีอาณาเขตกว้างขวางมากขึ้น ทิศตะวันตกติดแม่น้ําเจ้าพระยา ทิศเหนือติดคลองเทเวศร์ ทิศตะวันออกถึงบ้านพาน บ้านหล่อพระนคร ในขณะนั้นทางราชการได้สร้างทางตัดถนนวิสุทธิกษัตริย์ผ่านกลางวัดบางขุนพรหม ทําให้วัดบางขุนพรหมแยกออกเป็น 2 วัด คือวัดบางขุนพรหมใน และวัดบางขุนพรหมนอก ปัจจุบันวัดบางขุนพรหมใน คือ วัดใหม่อมตรส สถานที่ประดิษฐานพระมหาเจดีย์ และวัดบางขุนพรหมนอก คือ วัดอินทรวิหาร สถานที่ประดิษฐานพระหลวงพ่อโตยืนองค์ใหญ่ พระมหาเจดีย์ องค์นี้แหละเป็นที่มาของ พระสมเด็จบางขุนพรหม ครั้งนั้นสมเด็จโต และเสมียนตราด้วง ศิษย์ใกล้ชิดท่าน หลังจากดําเนินการจัดสร้างพระมหาเจดีย์เสร็จ ได้จัดสร้างพระพิมพ์เป็นเนื้อผงสีขาว อย่างพระสมเด็จวัดระฆังฯ จํานวนมากถึง 84,000 องค์ เท่าพระธรรมขันธ์บรรจุไว้ เพื่อเป็นการบูชาและสืบทอดพระพุทธศาสนาตามโบราณนิยม พระสมเด็จบางขุนพรหม ที่บรรจุไว้ในพระมหาเจดีย์ มีหลักๆ อยู่ทั้งหมด 9 พิมพ์ ดังนี้ พิมพ์ใหญ่, พิมพ์ทรงเจดีย์, พิมพ์เกศบัวตูม, พิมพ์ฐานแซม, พิมพ์เส้นด้าย, พิมพ์สังฆาฏิ, พิมพ์ฐานคู่, พิมพ์ปรกโพธิ์ และพิมพ์อกครุฑ เป็นต้น ผมอยู่วงการพระมานาน โดนคําถามตลอด พระสมเด็จบางขุนพรหมกรุเก่าสภาพองค์พระที่เจอทําไมดูใหม่กว่าพระสมเด็จบางขุนพรหมกรุใหม่ คงอธิบายได้ไม่ยาก การนําพระขึ้นจากกรุที่ต่างกัน พระบางขุนพรหมกรุเก่ามีสภาพองค์พระที่สะอาด หลายองค์ไร้ขี้กรุเกาะติด เพราะช่วงนั้นมีการแอบใช้ดินเหนียวปั้นเป็นลูกกลมๆ หย่อนลงไปตามช่องลมพระมหาเจดีย์ เพื่อให้พระสมเด็จติดก้อนดินขึ้นมา เรียกว่า ตกพระ เป็นคําบอกเล่าสืบจากอดีตสู่ปัญจุบันครับ องค์พระที่ได้จะอยู่ส่วนด้านบน สภาพพระจึงสมบูรณ์ ไม่ปรากฏขี้กรุชัดเจน ผิวเรียบ มีอยู่บ้างประเภทองค์พระขาวนวลขึ้นมาคล้ายฟองเต้าหู้ ส่วนพระสมเด็จบางขุนพรหมกรุใหม่ ได้มีการเปิดกรุอย่างเป็นทางการเมื่อปีพ ศ 2500 โดยมี จอมพลประภาส จารุเสถียร เป็นประธานการเปิดกรุ ปรากฏว่าองค์พระสมบูรณ์มีน้อย ส่วนใหญ่แตกหัก ขี้กรุผสมจับตัวแน่น บางองค์เป็นก้อนสีน้ําตาลแก่ พระสมเด็จบางขุนพรหมกรุใหม่ ขณะนั้นทางวัดเปิดให้ประชาชนบูชาองค์สภาพสมบูรณ์องค์ละ 3-4 พันบาท ไล่ตามพิมพ์ที่นิยม ส่วนองค์ที่แตกหักให้บูชาองค์ละ 3-4-5 ร้อยบาท ต้องจับฉลากกันเพราะขนาดเล็กใหญ่ไม่เท่ากันเลยให้มีการจับฉลากครับ ปัจจุบันพระสมเด็จบางขุนพรหม ทั้งกรุเก่าและกรุใหม่มีค่านิยมเล่นหามากขึ้นเรื่อยๆ เป็นเพราะมีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี เป็นประธานการจัดสร้างพุทธคุณย่อมไม่แตกต่างกับพระสมเด็จวัดระฆังฯ และพระสมเด็จวัดเกษไชโยแน่นอน เช็คพิมพ์ตอนแรกนึกว่าเป็น พิมพ์ฐานแซม แต่ ตรวสอบคร่าว ๆแล้ว เป็นพิมพ์ฐานคู่ครับ ประวัติคร่าวๆ ด้านล่าง พุทธคุณของ พระเครื่อง จะสัมผัสไม่ได้ด้วยตา แต่แน่นอนมีอิทธิพลทางด้านจิตใจอย่างมาก เมื่อห้อยอยู่ที่คอแล้วทําให้อบอุ่นกายแบบบอกไม่ถูก คงหนีไม่พ้น สุดยอดพระมหาเมตตาบารมี ที่ปลุกเสกโดยเจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พฺรหฺมรํสี เมื่อบูชาติดตัวติดกายแล้ว ด้านเมตตามหานิยมเป็นหนึ่ง ไม่ว่าจะเจอเรื่องเลวร้ายก็กลับกลายเป็นดี แม้แต่มัจจุราชยังไม่ต้องการตัว ส่งผลให้รอดตายราวปาฏิหาริย์ มีตํานานเล่าขานต่างๆนาๆจากอดีตจวบจนปัจจุบัน ถึงตํานานพระสมเด็จ เป็น 1 ในเบญจภาคี ที่สร้างโดยพระสงฆ์แล้วปลุกเสกโดยพระสงฆ์ หนึ่งเดียวเท่านั้นครับที่สุดแล้วครับพระสมเด็จ วัดบางขุนพรหม ในอดีตมีอาณาบริเวณกว้างขวาง โดยเฉพาะในช่วงที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี ชราภาพ ท่านมาจําพรรษาหาความสงบ ขณะนั้นชาวบ้านได้นําที่ดินมาถวายเพิ่มเติมจากเดิม เพื่อให้ท่านสร้างพระหลวงพ่อโต ประดิษฐานเป็นที่พึ่งทางใจของพุทธศาสนิกชน ทําให้วัดบางขุนพรหมมีอาณาเขตกว้างขวางมากขึ้น ทิศตะวันตกติดแม่น้ําเจ้าพระยา ทิศเหนือติดคลองเทเวศร์ ทิศตะวันออกถึงบ้านพาน บ้านหล่อพระนคร ในขณะนั้นทางราชการได้สร้างทางตัดถนนวิสุทธิกษัตริย์ผ่านกลางวัดบางขุนพรหม ทําให้วัดบางขุนพรหมแยกออกเป็น 2 วัด คือวัดบางขุนพรหมใน และวัดบางขุนพรหมนอก ปัจจุบันวัดบางขุนพรหมใน คือ วัดใหม่อมตรส สถานที่ประดิษฐานพระมหาเจดีย์ และวัดบางขุนพรหมนอก คือ วัดอินทรวิหาร สถานที่ประดิษฐานพระหลวงพ่อโตยืนองค์ใ
5. สมเด็จบางขุนพรหมกรุเจดีเล็ก(พิมพ์ใหญ่ วัดใหม่อมตรส
พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์สังฆาฏิมีหู สมเด็จโต วัดระฆัง รุ่นขรัวโต 241 1 สมเด็จพอท่านคล้าย รุ่นรวยล้นฟ้า พระสมเด็จบางขุนพรหมเส้นด้าย จี้ ห้อย คอ แฟชั่น ผู้หญิง พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่บางขุนพรหม กรุเจดีย์เล็ก บางขุนพรหม กรุงเทพฯ ขึ้นคราบกรุปะปรายทั่วทั้งองค์ มาพร้อมตลับบุกัมมะหยี่สี่แดงระบุชื่อวัด พุทธคุณสุดยอดเมตตามหานิยมครบเครื่อง รายละเอียด สมเด็จบางขุนพรหม กรุเจดีย์เล็ก ย้อนหลังไปประมาณ 130 ปี ในปี พ ศ 2413 เจ้าประคุณสมเด็จโตได้ประกอบพิธีปลุกเสกพระทั้งหมดด้วยตัวท่านเอง ก่อนบรรจุลงในกรุเจดีย์วัดบางขุนพรหม ซึ่งประกอบด้วยเจดีย์ใหญ่และเจดีย์เล็กรายล้อมอยู่ 4 ทิศ อีก 8 องค์ ซึ่งบรรดาท่านผู้รู้มักจะกล่าวถึงแต่การบรรจุพระลงในกรุเจดีย์ใหญ่ ซึ่งกรุเจดีย์เล็กน่าจะได้รับการบรรจุพระลงกรุในคราวเดียวกัน เพราะเมื่อกรุแตก และได้มีการนําพระทั้งสองกรุ มาพิจารณาเปรียบเทียบเนื้อหา มวลสาร ตลอดจนคราบกรุ และลงความเห็นว่าอายุการสร้างพระสมเด็จกรุเจดีย์เล็ก อยู่ในระหว่างปี พ ศ 2412-2413 ปีเดียวกับการสร้างพระสมเด็จวัดบางขุนพรหมกรุเจดีย์ใหญ่ เพียงแต่ต่างพิมพ์ทรง และแยกบรรจุคนละกรุ พิธีปลุกเสกย่อมจะเป็นคราวเดียวกัน สมเด็จบางขุนพรหมกรุเจดีย์เล็ก แบ่งออกเป็น 6 พิมพ์ ได้แก่ 1 พิมพ์ฐานคู่ 2 พิมพ์เจดีย์ดอกไม้ร่วง 3 พิมพ์สามเหลี่ยมหน้าหมอน 4 พิมพ์ยืนประทานพร 5 พิมพ์ไสยาสน์ 6 พิมพ์เจดีย์แหวกม่าน พระเครื่องเนื้อผง พระเครื่องเนื้อผงพุทธคุณ ซึ่งได้รับการยอมรับและยกให้เป็นจักรพรรดิ์ของพระเครื่อง นั่นก็คือที่สร้างโดย ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี อมตะเถระแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งท่านได้รังสรรค์สร้างพระเครื่องประเภทพระสมเด็จชิ้นฝัก สร้างขึ้นมาจากเนื้อผงพุทธคุณ กรรมวิธีในการสร้างพระเครื่องประเภทเนื้อผง สําหรับพระเครื่องเนื้อผงนั้น มวลสารหลักที่ใช้ในการจัดสร้างได้แก่ ปูนเปลือกหอย ซึ่งการสร้างพระเครื่องจากเนื้อผงนี้ถือเป็นศิลปแขนงหนึ่งในเชิงช่างการปั้นปูน ซึ่งปูนที่นํามาปั้นเป็นพระเครื่องเนื้อผงนั้นหลักๆ ก็มาจากเปลือกหอยและประสานเนื้อหามวลสารต่างๆ ด้วย ยางไม้ น้ําอ้อย หรือขี้ผึ้งชั้นดี สําหรับพระเครื่องเนื้อผงที่มีอายุเก่าแก่มากที่สุดที่สามารถหาข้อมุลได้นั้นได้แก่ พระเนื้อผง กรุทัพข้าว จ สุโขทัย รองลงมาก็คือ สมเด็จอรหัง วัดมหาธาตุ พระนคร ซึ่งสร้างโดย สมเด็จพระสังฆราช สุก ไก่เถื่อน สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ ๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และพระสมเด็จอรหังนี้ถือเป็นต้นแบบในการสร้างพระเนื้อผง รูปทรงสี่เหลี่ยมชิ้นฟัก ซึ่งสร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อประมาณปี ๒๓๖๐ สมเด็จพระสังฆราช สุก ไก่เถื่อน นี้ ท่านเป็นเกจิอาจารย์ที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี เคารพนับถือเป็นอย่างยิ่ง และถือเอาวัตรปฏิบัติ ตลอดจนวิธีการสร้างพระของสมเด็จพระสังฆราช สุก ไก่เถื่อน นี้มาสร้างสมเด็จวัดระฆัง สมเด็จบางขุนพรหม และสมเด็จเกศไชโย อันนับเป็นพระเนื้อผงที่ได้รับความศรัทธานิยมสูงสุดมาโดยตลอด กรรมวิธีการจัดสร้างพระเนื้อผงที่มีมาแต่โบราณกาลนั้น จะมีกรรมวิธีและขั้นตอนหลักๆ ๒ ขั้นตอน ประกอบไปด้วย ๑ การเตรียมวัตถุดิบ เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าเนื้อหามวลสารหลักที่นํามาใช้ในการจัดสร้างพระเนื้อผงได้แก่หรือที่มักจะเรียกกันว่าก็ได้ โดยขั้นตอนของการเตรียมผงปูนขาวนั้น จะนําเอาเปลือกหอยที่จัดเตรียมมานํามาเผาไฟ จากนั้นจะนํามาตําและบดให้ละเอียด จะได้เป็นผงที่ถือว่าเป็นวัตถุดิบหลัก ผงที่ได้จากขั้นตอนนี้เราจะเรียกว่า ผงปูนเปลือกหอย หลังจากนั้นจะทําการจัดเตรียมมวลสารที่เป็นมงคลอื่นที่นํามาเป็นส่วนผสมสําหรับคลุกเคล้ากับผงปูนเปลือหอย อาทิเช่น ว่านดอกไม้ แร่ทรายเงินทรายทอง วัตถดิบศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ของทนสิทธิ์ เศษพระเครื่องเนื้อดินที่เป็นพระกรุในจังหวัดกําแพงเพชร ตามตํารากล่าวว่าพระสมเด็จ วัดระฆังโฆสิตาราม นั้นท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี ท่านได้นําเอาเศษพระกําแพงซุ้มกอ ที่หักนํามาตําและบดผสมในเนื้อพระสมเด็จ วัดระฆังโฆสิตาราม เป็นต้น ก็จะนําเอามวลสารประกอบดังกล่าวมาตําและบดให้ละเอียดเช่นเดียวกัน เมื่อได้ผงทั้ง ๒ ส่วนแล้ว จะนําเอามาผสมกับผงวิเศษ ๕ ประการ ซึ่งจะขอกล่าวในหัวข้อถัดไป จากนั้นคลุกเคล้ามวลสารต่างๆ ให้เข้ากันดี และนําเอากล้วยน้ําว้า น้ํามันตั้งอิ๊ว น้ําอ้อย ยางไม้ หรือขี้ผึ้งชั้นดี อะไรก็ได้สุดแล้วแต่จะหาได้หรือตามสูตรการสร้างพระเครื่องที่ได้ร่ําเรียนมา เพื่อใช้เป็นตัวยึดประสานเนื้อหามวลสารที่เป็นผงต่างๆ ให้จับตัวรวมกันเป็นก้อน เพื่อสะดวกแก่การนําไปปั้นขึ้นรูป หรือกดกับแม่พิมพ์พระเครื่อง ต่อไป ย้อนกลับมากล่าวถึงการทําผงวิเศษ สําหรับผงวิเศษนี้ เป็นกรรมวิธีการทําที่จะต้องใช้ความมานะอุตสาหะเป็นอย่างยิ่ง เพราะต้องเขียนอักขระเลขยันต์ต่างๆ ลงบนกระดานชนวนและเมื่อสําเร็จก็ลบ แล้วรวบรวมผงที่ลบเสร็จปั้นเป็นก้อนดินสอสําหรับเขียนใหม่ กระทําซ้ําเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าได้จะปริมาณผงวิเศษตามที่ต้องการ ซึ่งพระเกจิอาจารย์ที่ถือว่าเป็นต้นแบบของการเขียนลบผงวิเศษนั้น ได้แก่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี แห่งวัดระฆังโฆสิตาราม ผู้สร้างพระสมเด็จอันสูงค่ายิ่ง ส่วนกรรมวิธีการเขียน-ลบ ผงวิเศษ มีดังต่อไปนี้ การทําผงวิเศษ ขั้นตอนการทําผงวิเศษจะเริ่มจากเรียกสูตร คําว่าก็คือ การเขียนอักขระเลขยันต์ นานาประเภท อันประกอบไปด้วย การบริกรรมสูตรพระคาถาต่างๆ ตามจังหวะของการเขียนอักขระเลขยันต์นั้นๆ ด้วย ดินสอผงวิเศษ ซึ่งดินสอผงวิเศษนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากส่วนประกอบของศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ อาทิเช่น ดินโป่ง ๗ ป่า ดินที่มีเกลือสินเธาว์ผุดเกรอะกรัง มีพบอยู่ตามป่าทั่วไป) ดินตีนท่า ๗ ดีนท่า ดินท่าน้ํา ๗ ท่าน้ํา) ดินหลักเมือง ๗ หลักเมือง ขี้ไคลเสมา ขี้ไคลประตูวัง ขี้ไคลเสาตะลุงช้างเผือก ยอดสวาท ยอดรักซ้อน ดอกกาหลง ดอกราชพฤกษ์ น้ํามัน ๗ รส น้ํามันที่ได้จากของ ๗ ประเภท จะเป็นพืชหรือสัตว์ก็ได้ ยิ่งหายากยิ่งดี และดินสอพอง เป็นต้น เอาส่วนผสมทั้งหมดมาผสมรวมกันแล้วบดให้ละเอียด นํามาผสมเจือกับน้ําเพื่อปั้นเป็นแท่งดินสอไว้สําหรับเขียนอักข
6. พระสมเด็จบางขุนพรหม
พระสมเด็จบางขุนพรหม
7. พระสมเด็จบางขุนพรหม กรุวัดบางขุนพรหม กทม
..พระเครื่องในร้านเป็นพระเช่าซื้อเหมาจากชาวบ้านมา ทางร้านได้นําเข้าพิธีพุทธาภิเษกอีกครั่งเพื่อความมั่นใจในพุทธคุณ ก่อนนําออกมาจําหน่าย ในโบถ์มหาอุตม์โดยคณะสงฆ์พระธุดงหมู่ใหญ่ที่มารวมงานปริวาทสกรรม ผ่านการสวดปาฎิโมก เสกอย่างเข้มขลัง ภายในวัดป่าที่ทางร้านเป็นผู้อุปถัมภ์ทําบุญอยู่เป็นประจํา รายได้ส่วนหนึ่งทางร้านนําไปทะนุบํารุงศาสนาในด้านต่างๆ มั่นใจได้พุทธคุณแรง -ผ่านการพุทธาภิเษกแล้ว -เป็นพระซื้อเหมามือสองมือสามมาจากชาวบ้านที่ได้รับแจกจากวัดและหลายๆที่ -เก็บปลายทางได้ -จัดส่ง จันทร์-ศุกร์ งดส่งเสาร์-อาทิตย์ วิธีบูชาพระเครื่อง - วัตถุมงคล พระเครื่อง หมายถึงวัตถุที่เป็นรูปพระ ซึ่งอาจเป็นรูปพระพุทธเจ้าก็ได้ รูปพระสงฆ์ก็ได้ เรียกว่า พระเครื่อง ส่วนวัตถุมงคลเป็นคํารวมอาจใช้เรียกพระเครื่องด้วยหรือของมงคลอย่างอื่นด้วย เช่น ตะกรุด ผ้ายันต์ แหวนพระ สายสิญจน์ เป็นต้น การอาราธนาพระเครื่องเป็นสิ่งจําเป็น เพราะจะเป็นการปลุกจิตของเราให้ตื่นตัวขึ้นรองรับสัมผัสกับคุณพระที่บรรจุ อยู่ภายใน เชื่อมโยงจิตของเรากับจิตของผู้เสกให้ถึงกัน และเป็นการรับรู้ว่าวันนี้เราจะแขวนหรือพกพาพระอะไร เมื่อต้องการความช่วยเหลือย่อมระลึกถึงได้ถูกองค์ มีขั้นตอนอันควรปฏิบัติ ดังนี้ พระเครื่อง และ วัตถุมงคลต่างๆ ก่อนที่จะอาราธนาขึ้นคล้องคอ ควรจัด ขันธ์ 5 หรือ ขันธ์ 8 เพื่อบูชาครูก่อน โดยสิ่งที่ต้องเตรียม มีดังนี้ 1 เทียนเล็ก 26 เล่ม 2 เทียนน้ํามนต์หนัก 1 บาท 2 เล่ม 3 ดอกมะลิ 26 ดอก 4 เงิน 24 บาท 5 ถาด 1 ใบ 6 วัตถุมงคล 7 ธูป 19 ดอก ขั้นตอน 1 นําเทียนเล็กทั้ง 26 เล่มวางเรียงกันเป็นแพ 2 นําเทียนน้ํามนต์ 2 เล่ม วางตรงกลาง 3 นําดอกมะลิวางด้านซ้าย 10 ดอก และ ด้านขวา 16 ดอก 4 ใส่เงิน 24 บาท 5 วางวัตถุมงคล จุดธูป 19 ดอก ปักที่กระถางธูป แล้วยกพานขึ้น ตั้งนะโม 3 จบ ...นมัสการคุณพระพุทธเจ้าก่อนว่า นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (3 จบ) ...ปลุกหัวใจพระเครื่อง นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ อะสังวิสุโลปุสะพุพะ ทุสะมะนิ นะชาลีติ พุทธะมะอะอุ ...สวดอาราธนา คุณพระรัตนตรัยเป็นกลาง ๆ ว่า พุทธังอาราธะนานัง ธัมมังอาราธะนานัง สังฆังอาราธะนานัง อุกาสะอาราธะนานังกะโรมิ ฯ พุทธัง ประสิทธิ เม ธัมมัง ประสิทธิ เม สังฆัง ประสิทธิ เม ข้าแด่ครูบาอาจารย์พระอริยสงฆ์ผู้สร้าง ...(ชื่อพระเครื่องวัตถุมงคล)... ข้าพเจ้า.....นามสกุล.....เกิดวันที่..เดือน...ปี พ.ศ. ขออาราธนาอัญเชิญ..(ชื่อวัตถุมงคล)..มาบูชาห้อยคอ หรือ ประจําบ้าน เพื่อเป็นสิริมงคล เป็นมิ่งขวัญในชีวิต ด้วยบารมีครูบาอาจารย์พระอริยสงฆ์บารมีธรรม ขอบารมีท่านจงปกแผ่คุ้มครอง ช่วยหนุนค้ําชู ดวงชะตา หน้าที่การงาน ให้พบแต่ความสุข ความเจริญให้ข้าพเจ้า...อย่าได้อด..อย่าได้อยาก อย่าได้ยาก..อย่าได้จน..อย่าได้ต่ํากว่าคน..อย่าได้จนกว่าใคร..เจริญด้วยทรัพย์สินเงินทอง อุดมสมบูรณ์ พูนสุข..ขอให้เป็นเศรษฐี มีเงินทองใช้ไม่ขาดมือช่วยเหลือเกื้อกูลพระพุทธศาสนาสืบไป สาธุ สําเร็จ สําเร็จ สําเร็จ ...........เท่านี้ก็ใช้ได้แล้วคับ............
คุณรู้หรือไม่? การเลือกซื้อพระกรุใหม่บางขุนพรหมแต่ละชนิดนั้นมีทั้ง พระกรุใหม่บางขุนพรหม นอกจากจะพิจารณาเรื่องของการใช้งานไม่ว่าจะเป็น งบประมาณ คุณภาพ ความทนทาน ชื่อเสียงของแต่ละรุ่นแล้ว ยังควรพิจารณาในเรื่องของพื้นที่ในการจัดวางและพื้นที่ใช้สอยในพระกรุใหม่บางขุนพรหมอีกด้วย โดยวันนี้เราได้จัดอันดับ พระกรุใหม่บางขุนพรหมแบบที่มีคุณภาพดีมีประสิทธิภาพมาให้คุณได้เลือกกันแล้ว ดังนี้