จัด 8 อันดับ พระนาคปรกเนื้อผงยา ที่ซื้อแล้วไม่ผิดหวัง อัพเดทล่าสุดปี 2568

พระปิดตาเนื้อผงว่านยา พิมพ์เศียรตัด หลวงปู่ภู่ วัดนอก จ ชลบุรี พระปิดตาเนื้อผงว่านยา ห ายาก สภาพสวย วัตถุมงคลตรงตามประกาศ

พระหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม พิมพ์นาคปรกใหญ่ เนื้อผงยา

พระผงนาคปรกหลวงปู่บุดดา 100 ปี เสาร์ 5 ไม่มีกล่องค่ะ

พระชัยวัฒน์ รููปบูชาพระพิฆเณศร์ เนื้อผงยาวาสนา ขนาดสูง 13 ซม ฐานกว้าง 10 ซม กําเนิดเครื่องรางของขลัง เครื่องรางของขลัง จัดเป็นเรื่องที่ลึกลับและกว้างขวางมาก เป็นความเชื่อโบราณเก่าแก่ที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ไม่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ในต่างประเทศระดับสากลทั่วโลกก็มีความเชื่อในเรื่องนี้ เพียงแต่แยกย่อยกันไปตามแต่ละท้องถิ่น ในบทความนี้จะกล่าวถึงเครื่องรางของขลังในสังคมไทยเท่านั้น คนไทยต่างก็มีความเชื่อเรื่องเครื่องรางของขลังที่พระคณาจารย์หลายท่านได้สร้างไว้ในแต่ละยุค จะเห็นได้จากการสืบทอดสรรพตําราตกทอดกันมายาวนาน แม้ในตําราพิชัยสงครามยังกล่าวถึงเครื่องรางของขลังที่นักรบสมัยโบราณพกติดตัวไว้ จะมีด้วยกันหลายชนิด ซึ่งแบ่งออกไปตามประเภทย่อยๆ ดังนี้ 1 ของมาจากธรรมชาติ ได้แก่ สิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ไม่มีการสรรค์สร้าง ซึ่งถือว่ามีดีในตัวและมีเทวดารักษา สิ่งนั้น ได้แก่ เหล็กไหล คดต่างๆ เขากวางคุด เขี้ยวหมูตัน เขี้ยวเสือกลวง ฯลฯ 2 ของที่สร้างขึ้นมา ได้แก่ สิ่งของที่มนุษย์สร้างขึ้นมา เช่น แร่ธาตุต่างๆ ที่หล่อหลอมตามสูตร การเล่นแร่แปรธาตุ อันได้แก่ เมฆสิทธิ์ เมฆพัด เหล็กละลายตัว สัมฤทธิ์ นวโลหะ สัตตะโลหะ ปัญจโลหะ เป็นต้น ทั้งนี้คลุมไปถึงเครื่องรางลักษณะต่างๆ ที่ได้รับการสร้างขึ้นมาเพื่อคุ้มกันภัยอันตราย แบ่งตามการใช้ 1 เครื่องคาด ได้แก่ เครื่องราง ที่ใช้คาดศีรษะ คาดเอว คาดแขน ฯลฯ 2 เครื่องสวม ได้แก่ เครื่องราง ที่ใช้สวมคอ สวมศีรษะ สวมแขน สวมนิ้ว ฯลฯ 3 เครื่องฝัง ได้แก่ เครื่องราง ที่ใช้ฝังลงไปในเนื้อหนังของคน เช่น เข็มทอง ตะกรุดทอง ตะกรุดสาลิกา และการฝังเหล็กไหล หรือฝังโลหะมงคลต่างๆ ลงไปในเนื้อจะรวมอยู่ในพวกนี้ทั้งสิ้น 4 เครื่องอม ได้แก่ เครื่องราง ที่ใช้อมในปาก เช่น ลูกอม ตะกรุดลูกอม สําหรับในข้อนี้ไม่รวมถึงการอมเครื่องรางชนิดต่างๆที่มีขนาดเล็กไว้ในปาก เพราะไม่เข้าชุด) แบ่งตามวัสดุ 1 โลหะ 2 ผง 3 ดิน 4 วัสดุอย่างอื่น อาทิ กระดาษสา ชันโรง ดินขุยปู 5 เขี้ยวสัตว์ เขาสัตว์ งาสัตว์ เล็บสัตว์ หนังสัตว์ 6 ผมผีพราย ผ้าตราสัง ผ้าห่อศพ ผ้าผูกคอตาย 7 ผ้าทอทั่วไป แบ่งตามรูปแบบลักษณะ 1 ผู้ชาย อันได้แก่ รักยม กุมารทอง ฤาษี พ่อเฒ่า ชูชก หุ่นพยนต์ พระสีสแลงแงง และสิ่งที่เป็นรูปของเพศชายต่างๆ 2 ผู้หญิง อันได้แก่ แม่นางกวัก แม่พระโพสพ แม่ศรีเรือน แม่ซื้อ พระแม่ธรณี และสิ่งที่เป็นรูปของผู้หญิงต่างๆ 3 สัตว์ ในที่นี้ หมายถึง พระโพธิสัตว์ อาทิ เสือ ช้าง วัว เต่า จระเข้ งู เป็นต้น แบ่งตามระดับชั้น 1 เครื่องรางชั้นสูง อันได้แก่ เครื่องรางที่ใช้บนส่วนสูงของร่างกาย ซึ่งนับตั้งแต่ศีรษะลงมาถึงบั้นเอว สําเร็จด้วย พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ 2 เครื่องรางชั้นต่ํา อันได้แก่ เครื่องรางที่เป็นของต่ํา อาทิ ปลัดขิก อีเป๋อ แม่เป๋อ ไอ้งั่ง พ่องั่ง ไม่ได้สําเร็จด้วยของสูง 3 เครื่องรางที่ใช้แขวน อันได้แก่ ธงรูปนก รูปปลา หรือ กระบอกใส่ยันต์และอื่นๆ เครื่องลาง หรือ เครื่องราง คนสมัยก่อนมักใช้คําว่า ลาง ล ลิง แต่ปัจจุบันใช้ ราง ร เรือ อันคําว่าเครื่องลาง ของคนสมัยก่อนที่ใช้ ล ลิง เขียน เพราะคําว่า เครื่องราง มาจากคําว่า เครื่องเตือนลางบอกเหตุ เครื่องเตือนบอกลางสังหรณ์ คําว่า ลาง เป็นคําเดียวกับลางสังหรณ์ ลางบอกเหตุ โชคลาง เครื่องลางหรือเครื่องราง เป็นวัตถุหรือสิ่งของที่เกิดขึ้นโดยการสร้างของ พระเกจิ อาจารย์ จอมขมังเวทย์ ผู้เรืองวิชาอาคม ฤาษี หรือ บรมครูผู้รู้ไสยเวทย์ เช่น ตะกรุด ผ้าประเจียด มงคล ผ้ายันต์ เสื้อยันต์ มีดหมอ ลูกประคํา ลูกสะกด ลูกอม เบี้ยแก้ หมากทุย เชือกคาดเอว แหวนพิรอด และเครื่องรางประเภท วัวธนู ควายธนู ชูชก นางกวัก กุมารทอง รักยม เสือ สิงห์ ลิง แพะ หนุมาณ พญาเต่าเรือน นกคุ้ม นกสาริกา จิ้งจก ตุ๊กแก ฯลฯ จะเห็นได้ว่าเครื่องรางที่กล่าวมาข้างต้นนี้ล้วนเกิดจากการสร้างขึ้นมาทั้งสิ้น โดยมีเกจิ อาจารย์ หรือครูผู้รู้ไสยศาสตร์ คําว่าเครื่องรางหรือเครื่องรางที่มาจากคําว่าเครื่องบอกลางสังหรณ์ หรือเครื่องบอกรางบอกเหตุนั้นมีเหตุผลและคําอธิบายดังนี้ เครื่องลางหรือเครื่องราง ในสมัยโบราณจริงๆ เช่น ตะกรุด ผ้ายันต์ ผ้าประเจียด มงคล ลูกสะกด เบี้ยแก้ เชือกคาดเอว กุมารทอง รักยม แหวนพิรอด ลูกอม วัวธนู ควายธนู ฯลฯ เครื่องรางพวกนี้ที่ถูกสร้างมาโดยครูบาอาจารย์ผู้ทรงพระเวทย์วิทยาคมและมีอํานาจจิตอํานาจสมาธิสูงส่ง สามารถแจ้งเตือนภัยได้จริง เช่น เบี้ยแก้ ลูกสะกด ลูกอม วัวธนู ควายธนู เครื่องรางประเภทนี้เมื่อมีเหตุเภทภัยจะมาถึงตัวผู้บูชาจะเกิดการสั่นเตือนให้ผู้เป็นเจ้าของได้รู้ว่าขณะนี้มีผู้ไม่หวังดีมาประสงค์ร้าย ส่วนเครื่องรางประเภทเชือกคาด มงคล ผ้าประเจียด แหวนพิรอด เวลาแจ้งเตือนก็จะเกิดการรัดแน่นจนเจ้าของรับรู้ได้ ส่วนพวกรักยม กุมารทองก็จะมาเป็นลักษณะพรายกระซิบคือมากระซิบเตือนว่าจะมีเหตุมีอันตรายเกิดขึ้น ยกตัวอย่างเช่นเบี้ยแก้ของสํานักดังๆ วัดนายโรง วัดกลางบางแก้ว สายอ่างทองฯลฯที่ผู้บูชาจะรู้สึกว่าเบี้ยสั่นได้เมื่อไปอยู่ในสถานที่ที่มีการปล่อยคุณไสยหรือมมีผู้คิดร้ายต่อตน แหวนพิรอดของหลวงพ่อกวยที่ถึงกับเรียกกันว่าแหวนเรดาห์เพราะจะเกิดการรัดแน่นจนผู้สวมใส่รู้สึกได้เมื่อมีเหตุเภทภัยจะมาถึงตัวผู้สวมใส่ นี่คือคําอธิบายที่ยกมาเป็นตัวอย่างและเป็นข้อเปรียบเทียบ ระหว่างคําว่า เครื่องลาง กับ เครื่องราง ไม่ว่าจะใช้คําว่าลางหรือราง ขอเพียงให้เราเข้าใจและรู้ความหมายจริงๆลึกๆ จะใช้คําว่าลางหรือรางยังไงก็ไม่สําคัญเท่ากับรู้ความหมายถึงที่มาที่ไปอย่างถูกต้อ

เนื้อผง สภาพดี หลังจาร เก่า ไม่ทราบที่

พระนาคปรก (เนื้อผง)แคล้วคลาด ปลอดภัยร่ํารวย เงินทอง เนื้อผง ขนาดองค์ 1 นิ้ว ผ่านพิธีปลุกแล้ว

พระผงหน้าใหญ่พญาไก่พันล้าน หลวง พ่อ ฤาษีลิง พระ ผง พระสังกัจจายน์เนื้อผง เหล็กไหลเขาอึมครึม ตะกรุด มหา เสน่ห์

เนื้อผงน้ํามัน สภาพดี ปี ๒๕๒๑ วัดโฆสิตาราม จ.ชัยนาท